วันจันทร์ที่ 26 เมษายน พ.ศ. 2553

คิดขยายกรอบ: หาคำตอบจากการเปลี่ยนโจทย์

คิดขยายกรอบ: หาคำตอบจากการเปลี่ยนโจทย์

พวกเรามักรู้จักดีกับ "ความคิดนอกกรอบ" แต่ส่วนใหญ่แล้วมักใช้ไม่ได้ เพราะ บางกรอบนั้นเป็นกฎหมาย หากกระทำเรื่องนอกกฎหมายแล้วจะเป็นเรื่องที่เสียหายได้มาก นอกจากนี้ เดอ เบอโน กูรูด้านความคิดสร้างสรรค์ได้พูดถึง "ความคิดข้ามกรอบ" คือ สำรวจดูกรอบทุกๆ ด้านแล้ว ว่าด้านในที่พอจะข้ามไปได้ ก็สร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ ขึ้นมาได้

"ความคิดขยายกรอบ" คือ สิ่งที่ยิ่งกว่านั้น เป็นการขยายกรอบแนวคิดออกจากสิ่งเดิม และทำให้เกิดองค์ความรู้จำนวนมากภายใต้กรอบแนวคิดใหม่นี้ อาจเรียกได้ว่าเป็น "ทฤษฎีใหม่" ก็ว่าได้ อย่างเช่น ในสมัยก่อนนั้น นิวตัน มีกฎของนิวตันไว้ว่า "สสารไม่มีวันสูญหายไปจากโลก" อย่างไรก็ดี ไอน์สไตน์ ได้ขยายกรอบแนวคิดไปว่า "สสารสามารถสูญหายไปเป็นพลังงานได้" ซึ่งทำให้เกิดความรู้ทั้งสร้างสรรค์ และ ทำลายไม่น้อย ตั้งแต่ ระเบิดนิวเคลียร์ โรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ และ พลังงานฟิวชั่น

"เศรษฐศาสตร์ไท้เก๊ก" ซึ่งเป็นแนวคิดใหม่ด้วยการยืมพลังจากแหล่งต่างๆ โดยเฉพาะ กองทุนบำนาญ เป็นการขยายกรอบแนวคิดเดิมที่บอกว่า การกระตุ้นเศรษฐกิจนั้นมีนโยบายอยู่ 3 ด้าน คือ การคลัง การเงิน และ อัตราแลกเปลี่ยน หากเราเปลี่ยนโจทย์เสียหน่อย ที่ไม่เชื่อว่าจะมีอยู่แค่ 3 ด้านเท่านั้น ก็จะทำให้เกิดองค์ความรู้ได้มากมาย เช่น การยืมพลังจากกองทุนบำนาญ ยืมพลังคนต่างด้าว ยืมพลังราคาสินทรัพย์ เป็นต้น

"รัฐศาสตร์ไท้เก๊ก" ด้วยการใช้อ่อนสยบแข็ง อาจไม่ใช่ความรู้ใหม่นัก แต่การนำมาใช้เพื่อปฏิบัติ ด้วยการฉีกโจทย์เดิมๆ ที่บอกว่า "การเลือกตั้งต้องใช้เงิน ดังนั้นมีแต่นายทุนที่ชนะ และ พวกเขาจะเข้ามาถอนทุนทางการเมือง" จึงต้องมีการเปลี่ยนโจทย์เสียใหม่ ให้การเลือกตั้งไม่ต้อง
ใช้เงิน ด้วยระบบเลือกตั้งตัวแทนหมู่บ้านแล้วจับสลาก เมื่อไม่ต้องลงทุนทางการเมือง การถอนทุนทางการเมืองจะลดลงไปมากด้วยเช่นกัน เราจะได้ตัวแทนของชาวบ้าน ที่เป็นชาวบ้านจริงๆ มาแก้ไข กฎหมายต่างๆ เพื่อชาวบ้านอย่างแท้จริง

ขอเรียกร้องคนไทย และ ผู้อ่านทุกท่าน อย่าหยุดอยู่แค่ความคิดนอกกรอบ และ คิดข้ามกรอบเท่านั้น
ให้เรียนรู้สู่ "ความคิดขยายกรอบ" ไปได้ จะสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ และ มีองค์ความรู้จำนวนมากที่จะถูกสร้างสรรค์จากกรอบใหม่ๆ นั้นครับ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น