ตลาดหุันอเมริกา S&P500 แม้จะดูไม่แพงนัก P/E 17 เท่า แต่ว่า ดัชนีหุ้นเล็กอย่าง Russell2000 ซึ่งประกอบไปด้วยหุ้นเล็ก 2 พันตัว แต่มีขนาดของมูลค่าตลาดเพียง 12% ของ S&P500 นั้น มี P/E สูงถึง 50 เท่า ตลาดหุ้นอเมริกาได้มองโลกในแง่ดีปั่นหุ้นเล็กๆ ขึ้นมาถึง 3 เท่าตัวจากระดับต่ำสุดในวิกฤติแฮมเบอร์เกอร์ ขณะที่กำไรวิ่งตามไม่ทัน ค่า P/E ปัจจุบันนั้นจึงสูงมาก เป็นฟองสบู่พร้อมแตก ราคาหุ้นพร้อมจะลงได้ครึ่งหนึ่ง
ในทวีปอเมริกาอย่าง สหรัฐฯ และ แคนาดา นั้น P/E อยู่ระหว่าง 17-19 เท่าตัว อย่างไรก็ดีมีฟองสบู่ซ่อนอยู่เหมือนกัน โดยในตลาดหุ้นอเมริกาใต้นั้น ตลาดหุ้นบราซิล แม้จะมีค่า P/E 18 เท่าระดับเดียวกัน แต่ความแตกต่างอยู่ตรงนี้ ผลตอบแทนพันธบัตร 10 ปี (หรือดอกเบี้ยระยะยาว) ของบราซิลยืนที่ 13% หมายถึง การคาดหวังผลตอบแทนในตลาดหุ้นจะตกราว 16% ต่อปี (รวมค่า premium อีก 3%) ค่า P/E ที่เหมาะสมของตลาดหุ้นนั้นควรอยู่ราว 7 เท่าตัวเอง แค่ดัชนี IBovespa นั้นมีกลับค่านี้สูงถึง 18 เท่าตัว ราคาหุ้นพร้อมดิ่งลงได้อีกมาก เหตุการณ์เช่นนี้ก็เช่นเดียวกับตลาดหุ้นโคลัมเบีย เช่นเดียวกัน
แล้วแวะมาดูที่ตลาดหุ้นยุโรปกันบ้าง แม้ตลาดขนาดใหญ่ 3 แห่ง คือ ตลาดหุ้นเยอรมัน อังกฤษ และ ฝรั่งเศส จะอยู่ที่ราว 17-18 เท่า ไม่นับว่าแพงนักเมื่อเทียบกับอัตราดอกเบี้ย แต่ตลาดหุ้นในกลุ่ม PIIGS หลายตลาดนั้นแพงมากๆ เช่น ตลาดหุ้นอิตาลี โปรตุเกส นั้นผลกำไรทั้งตลาดอยู่ระดับติดลบ คือ ไม่มี P/E นอกจากนี้ ตลาดหุ้นไอร์แลนด์นั้น P/E สูงถึง 61 เท่าตัว เป็นฟองสบู่พร้อมแตก
นอกจากนี้ในทวีปแอฟริกา อย่างแอฟริกาใต้ ซึ่งมี bond yield 10 ปีที่ 8.4% อาจหมายถึง ผลตอบแทนคาดหวังจากตลาดหุ้นราว 11.4% ค่า P/E ที่เหมาะสมควรจะอยู่ราว 9 เท่าตัว อย่างไรก็ดี ค่า P/E ปัจจุบันยืนสูงถึง 18 เท่าตัวสำหรับ ดัชนี TOP40 ของแอฟริกาใต้ ตลาดหุ้นพร้อมตกลงได้อย่างแรง
สำหรับทวีปเอเชียดูบ้าง แม้จะตลาดขนาดใหญ่อย่าง ญี่ปุ่น จีน และ ฮ่องกง จะดูเหมือนไม่แพงนัก อยู่ระดับปกติ แต่ตลาดหุ้นอย่างอินโดนีเซีย มีค่า P/E ถึง 22 เท่า ทั้งที่ bond yield 10 ปีที่ 8% P/E ที่เหมาะสมควรอยู่ราว 9 เท่าตัว เช่นเดียวกับตลาดหุ้นอินเดียวซึ่งมี P/E 17เท่า ก็ไม่แตกต่างกันนัก ดังนั้นตลาดหุ้นอย่างอินเดีย อินโดนีเซีย ซึ่งมีอัตราดอกเบี้ยสูงมากนั้น ราคาหุ้นพร้อมจะตกลงได้อย่างแรงเช่นกัน
และสุดท้ายสำหรับประเทศไทยเอง แม้ SET index จะไม่แพงมากนัก ระดับ P/E 15 เท่าซึ่งดูเหมาะสม แต่สำหรับ ดัชนีตลาด MAI กลับสูงถึง 38 เท่าตัว ซึ่งอันตรายมากๆ ราคาหุ้นเกินพื้นฐาน เป็นฟองสบู่พร้อมแตก
สรุปก็คือ มีฟองสบู่ตลาดหุ้นที่ซ่อนอยู่เกือบทุกจุดในโลก โดยเฉพาะในตลาดหุ้นขนาดเล็ก ปัญหาก็คือ นักวิเคราะห์ไม่ได้ใส่ใจในประเด็นเหล่านี้นัก หากฟองสบู่เหล่านี้แตกตัวลงพร้อมๆ กัน นั่นอาจสิ่งที่พึงจะระวังให้ดี เพราะ อาจส่อปัญหาใหญ่ต่อเศรษฐกิจโลกได้นะครับ
ข้อมูล : Bloomberg