วันจันทร์ที่ 4 เมษายน พ.ศ. 2554

เลือกตั้งอย่างไร...ไม่ใช้เงิน

การใช้เงินทุนจำนวนมากเพื่อการเลือกตั้ง ซึ่งมีการประเมินว่าอาจต้องใช้เงินถึง 5 หมื่นล้าน แทนที่จะเป็นระบอบ "ประชาธิปไตย" เรากลับได้มาแต่ระบอบ "ธนาธิปไตย" ซึ่งได้สร้างปัญหาอย่างมากต่อประเทศไทยมาอย่างต่อเนื่อง หากมีสิ่งใหม่คือ "การเลือกตั้งไม่ต้องใช้เงิน" อาจช่วยแก้ไขปัญหาใหญ่ 4 เรื่องให้เบาบางลงไปได้อย่างมาก
1. การซื้อเสียง : เมื่อไม่ต้องใช้เงินทุน ใช้พลังของสวรรค์มาช่วย จึงคาดได้ว่าไม่มีการซื้อเสียง หรือน้อยมากๆ
2. ทุนอุปถัมภ์ : เมื่อไม่มีต้องใช้เงินทุน ก็ไม่ต้องมีนายทุนพรรค ไม่ต้องมีการอุปถัมภ์แบบ "นายใหญ่" กับ "ลิ่วล้อ"
3. ถอนทุน : เหล่าลิ่วล้อ สส. จำเป็นต้องทดแทนคุณ นายทุนพรรค นำเงินบางส่วนจากโครงการต่างๆ มาเข้าพรรค นี่คือ การถอนทุนทางการเมือง ซึ่งก็คือ "คอรัปชั่น"นั่นเอง เมื่อไม่มีการลงทุนทางการเมือง ก็น่าเชื่อได้ว่า การถอนทุนก็น่าจะลดลงไปได้มาก สส.เปลี่ยนจาก "นายทุนคนเลว" เปลี่ยนมาเป็น "ชาวบ้านคนดี" ก็น่าเชื่อได้ว่า คอรัปชั่นน่าจะเบาบางลงไปเหลือเพียง 1 ใน 10 จากระดับที่สูงมากระดับ 2 แสนล้านบาทต่อปี ณ ปัจจุบัน
4. รัฐประหาร : เมื่อมีการซื้อเสียง และ คอรัปชั่นกันหนักหนาสาหัส จึงเป็นข้ออ้างให้ทหาร สามารถอ้างความชอบธรรมในการทำ "ปฏิวัติรัฐประหาร" ล้มรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง ทำกันมาอย่างต่อเนื่องหลายสิบปีที่ผ่านมา

จะเห็นได้ว่า "การใช้เงินทุนมากเพื่อเลือกตั้ง" คือ ต้นตอแห่งความชั่วร้ายทั้งปวงในระบอบการเมืองไทย ดังนั้น หากเราสามารถทำให้การเลือกตั้งไม่ต้องใช้เงินได้...มันจะดีกว่าไหม

สิ่งที่ผมคิดค้นคิดนี้เรียกว่า "รัฐศาสตร์ไท้เก๊ก" (Taiji-Politics) ซึ่งเป็นการยืมพลังจากสวรรค์ เพิ่มพลังการเมืองให้ชาวบ้านให้คานอำนาจกับนายทุน สร้าง "สมดุลแห่งพลังทางการเมือง" โดยหลักการนี้ยังอาจไปประยุกต์ใช้กับการเลื่อนตำแหน่งข้าราชการ การคัดเลือกเด็กเล็กเข้าเรียน หลีกเลี่ยงปัญหาของการใช้ "เงิน" และ "เส้น" ในประเทศไทยนี้ได้อีกด้วย หลักการมี 2 ขั้นตอนสำคัญ ก็คือ "คัดกรองแล้วจับสลาก"

ไม่ใช้เงินแต่ยังคงความเป็นประชาธิปไตยเอาไว้ให้ได้ นั่นก็คือ การให้ประชาชนระดับหมู่บ้านเลือกตั้งตัวแทนแต่ละหมู่บ้านมา 1 คน โดยมีคุณสมบัติต้องจบระดับ ม.ปลายขึ้นไป (แทนที่จะเป็นระดับปริญญาตรี) เราก็จะได้ตัวแทนหมู่บ้านมา 8 หมื่นคนทั่วประเทศ แล้วใช้วิธีจับสลากเอาได้ สส.เขต 375 คน จากตัวแทนหมู่บ้านเหล่านี้ วิธีนี้จะแทบไม่มีการซื้อเสียง แทบไม่ต้องใช้เงินทุน แต่ยังมีความเป็น "ประชาธิปไตย" มากๆ เพราะ เราจะได้ตัวแทนของชาวนา เป็น หัวหน้าชาวนา ไม่ใช่ นายทุนเจ้าที่ดิน เราจะได้ตัวแทนของผู้ใช้แรงงาน เป็น หัวหน้าคนงาน ไม่ใช่ นายทุนเจ้าของกิจการ

ระบบนี้มันดีมากใช่ไหม?? ใช่แล้วละครับ แต่เราจะพบกับอีกปัญหาที่สำคัญก็คือ สส.ปัจจุบันซึ่งเป็นกลุ่ม "น้ำเน่า" นั้น มีความรับผิดชอบน้อยกว่า "เด็กนักเรียน" เสียอีก เพราะ เด็กนักเรียนได้เงินค่าขนมแต่ละวันแค่เศษเงิน ยังรับผิดชอบด้วยการเข้าห้องเรียนกันทุกวัน แต่ สส.พวกนี้โดดเป็นประจำทำสภาล่มบ่อยๆ นอกจากนี้ ในโรงเรียนยังมีการลงโทษ นักเรียนที่ไม่ทำหน้าที่การเข้าเรียน ด้วยการให้ยืนหน้าห้อง ถูกตี เรียกผู้ปกครองมาพบ พักการเรียน และสุดท้ายคือ ไล่ออก แล้วพวก สส.เหล่านี้มีบทลงโทษอะไรกันบ้างละ ?? ยังหาวิธีขึ้นเงินเดือนตัวเองอีกต่างหาก เมื่อเป็นเช่นนี้ เราจะหวังให้ สส.เหล่านี้มาแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อให้ชาวบ้านมีสิทธิมีเสียงมากขึ้นมาเป็น สส.กันได้ และ ทำให้พวกเขาซึ่งเป็นนายทุนเลวๆ หรือลิ่วล้อ หมดสิทธิการเป็น สส.ได้อีกนะหรือ .... เรื่องนี้คงเป็นไปได้ยากเย็นอย่างยิ่ง

อย่างไรก็ดี นี่เป็นโอกาสอันสวยงามที่ศึกเลือกตั้งที่สูสีกันอย่างมากระหว่าง 2 พรรคใหญ่ หากพรรคใดพรรคหนึ่ง เลือกที่จะใช้ "เศรษฐศาสตร์ไท้เก๊ก" (Taiji-Econ.) เพื่อเพิ่มพลังเศรษฐกิจให้ชาวบ้านด้วยการยืมพลังจาก "กองทุนบำนาญ" อัดฉีดเงินเข้ากระเป๋าประชาชนถึง 1 ล้านล้านบาท ผ่าน "สินเชื่อ999" และ "กองทุน555" รวมไปถึง การเดินหน้าปลดหนี้ให้ชาวบ้านราวปีละเกือบ 1 ล้านคน ผ่าน "หวยชมชอบ" และทั้งหมดนี้คือการสร้าง "สมดุลแห่งพลังเศรษฐกิจ" ขึ้นมา รวมไปถึง การสัญญาว่าจะแก้ไข รธน.เพื่อเลือก สส.จากตัวแทนหมู่บ้าน มาเป็น สส.ระบบเขต ด้วยการนำเอา "รัฐศาสตร์ไท้เก๊ก" (Taiji-Politics) มาเพื่อเพิ่มพลังการเมืองให้ชาวบ้านด้วยการยืมพลังจากสวรรค์เพื่อสร้าง "สมดุลแห่งพลังการเมือง" พรรคนั้นจะกลายเป็น "พรรคที่ถูกเลือก" และ ได้รับคะแนนเสียงท่วมท้นจากชาวบ้านจนน่าจะสามารถตั้งรัฐบาลพรรคเดียวได้อย่างสบายๆ

อาจกล่าวได้ว่า ต้องใช้เงินทุนถึงกว่า "หมื่นล้าน" เพื่อจะได้เสียง สส.มากพอจะตั้งรัฐบาลพรรคเดียวได้ และการที่ผมนำเอาไอเดีย มูลค่านับหมื่นล้าน มาให้กับพรรคการเมืองแบบฟรีๆ ดูเหมือนจะช่าง "ใจดีอย่างไร้สติ" แต่เดี๋ยวก่อน หากเราหยุดคิดสักนิด และมองข้ามช็อตไปในอนาคตข้างหน้า พรรคการเมืองนั้นจะเป็นพรรคที่ถูกเลือกเพื่อสร้าง "สมดุลแห่งพลัง" ขึ้นมาต่างหาก และ นั่นจะเป็นผลประโยชน์ต่อประเทศไทยเพิ่มขึ้นจากนั้นอีกเป็น "ร้อยเท่าพันทวี" และผลลัพธ์สุดท้ายนั้นเองคือสิ่งที่คนไทยเกือบทั้งประเทศฝันไว้มิใช่หรอกหรือ ??

เรื่องนี้อาจดูคล้ายกับ ภาพยนตร์เรื่อง Star Wars อันโด่งดัง "การสร้างสมดุลแห่งพลัง" หากเกิดขึ้นได้นั่นหมายถึง ตอนจบของเรื่องแล้วเป็นภาคสุดท้าย "Return of the Jedi" พรรคใดใช้ระบอบเจได พรรคใดใช้ระบอบซิธ และ ใครเล่นเป็นตัวละครไหน คงต้องไปคิดต่อกันเอาเอง รอดูนโยบายของพรรคและผลการเลือกตั้ง อีกไม่นานหรอกครับ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น