ก.: กฎกติกา ในเมื่อ กปปส.เรียกร้องให้รักษาการนายกฯ ยิ่งลักษณ์ "ลาออก" แต่เนื่องจากทำไม่ได้เพราะ ขัดกับรัฐธรรมนูญนั้น ทางเลี่ยงที่พอจะทำได้ตามกฎกติกาก็คือ "ชินวัตรควรยอมถอยเพื่อชาติ" คุณยิ่งลักษณ์ควรประกาศ "เว้นวรรคทางการเมือง" เพื่อแลกกับ การที่ลุงกำนันสุเทพจะไม่ขัดขวางเลือกตั้ง ไม่ปิดล้อมสถานที่ราชการ และ ยุติการชุมนุม นี่จะเป็นการแลกกันแบบคุ้มๆ เป็นการลงจากอำนาจ แบบเป็นไปตาม "กฎกติกา"
ป : ประชาธิปไตย มองจากมุมของรัฐบาลรักษาการ การเลือกตั้งจะนำไปสู่ "ประชาธิปไตยตามหลักสากล" อย่งไรก็ดี สส.ในประเทศไทยนั้นจะสวมหมวก 2 ใบ คือ ใบหนึ่งคือสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ส่วนหมวกอีกใบหนึ่ง เป็นลูกจ้างของนายทุนพรรค ดังนั้นนี่อาจเรียกได้ว่าเป็น "ระบอบทักษิณ" นั่นเอง
แต่หากมองจากมุมของ กปปส. ก็พบว่า การจัดตั้งสภาประชาชน รัฐบาลประชาชน โดยคัดเลือกจากคนกลุ่มเดียวที่มีคุณสุเทพเป็นผู้นำนั้น แม้จะอ้างว่านี่คือ "ประชาธิปไตยที่สมบูรณ์" ความจริงแล้วมันคือ "ระบอบสุเทพ" นั่นเอง
สำหรับคนเสื้อขาว ซึ่งเป็นคนส่วนใหญ่ของประเทศนั้นจะไม่ชอบใจทั้ง "ระบอบทักษิณ" และ "ระบอบสุเทพ" ดังนั้น ผมได้ทุ่มเทสติปัญญาเพื่อนำเสนอสิ่งใหม่ที่เรียกว่า "ประชาธิปไตยไท้เก๊ก" (คำแปล: สุดยอดประชาธิปไตย) ซึ่งสิ่งนี้ก็คือ การนำเอาอำนาจที่แท้จริงกลับสู่มือประชาชนคนไทยทั้งประเทศ ส่วน สส.มีอำนาจตามรูปแบบเท่านั้น โดยอำนาจของ สส.3 เรื่องหลัก คือ 1.เพิ่มหรือเปลี่ยนแปลงกฎหมาย 2.เลือกนายกฯ และ 3.ไม่ไว้วางใจคณะรัฐมนตรี จะให้อำนาจ 3 เรื่องหลักนี้เป็นไปตาม "ประชามติ" หรือนี่คือประชาธิปไตยแบบทางตรง ผ่านประชามติ เพื่อให้อำนาจอธิปไตยอยู่ในมือของประชาชนทั้งประเทศอย่างแท้จริงนั่นเอง สส.มีหน้าที่ยกมือโหวตตามผลของ "ประชามติ" เท่านั้น ไม่ใช่ตามใจนายทุนพรรรค นี่คือ ข่าวดีสำหรับคนเสื้อเหลือง เพราะเป็นการ "โค่นระบอบทักษิณ" และ เป็นข่าวดีสำหรับคนเสื้อแดง เพราะ เป็นการ "สกัดระบอบสุเทพ"
ป: ปฏิรูป ต่างฝ่ายต่างก็ต้องการเป็นฝ่ายปฏิรูปประเทศไทย อย่างไรก็ดี จะให้มาคุยเจรจาร่วมมือกันเพื่อปฏิรูปนั้นก็คงจะยากเย็น ผมขอเสนอแนวทางแบบ ต้นน้ำ-กลางน้ำ-ปลายน้ำ ซึ่งจะทำให้เกิดการบูรณาการของการปฏิรูปได้ในทุกภาคส่วน
ต้นน้ำ คือ ส่วนที่เป็น อ.ไอเดีย โดยให้ฝ่าย กปปส.และ พรรคประชาธิปัตย์ที่บอกว่ามีไอเดียในการปฏิรูปมากมาย จัดการประชุมมาหลายครั้งคงมีเรื่องดีๆ อยู่เต็มหัวแน่นอน จัดทำแบบสอบถามเพื่อเตรียมทำประชามติทั่วประเทศ ในการแก้ไขปัญหากฎหมายสำคัญๆ หลายเรื่องได้เลย
กลางน้ำ คือ อ.อุดมการณ์ ซึ่งจะส่งมอบอุดรการณ์ในการทำเพื่อประชาชนส่วนใหญ่ ด้วยการทำ "ประชามติ" โดยประชาชนทั้งประเทศเป็นผู้มีอำนาจในการเปลี่ยนแปลงปฏิรูปกฎหมายนั่นเอง
ปลายน้ำ คือ อ.อำนาจ โดย สส.ใหม่ที่เข้ามาซึ่งส่วนใหญ่น่าจะมาจากพรรคเพื่อไทยนั้น จะมีอำนาจในการยกมือโหวต (ตามผลประชามติ) เพื่อเปลี่ยนแปลงกฎหมายคอร์รัปชั่น กฎหมายผู้ว่าฯ ปฏิรูปตำรวจ และอื่นๆ
ดังนั้น ทุกฝ่ายจึงมีส่วนร่วมในการ "ปฏิรูปประเทศไทย" โดยเป็นลักษณะของ ต้นน้ำ-กลางน้ำ และ ปลายน้ำ ซึ่งหากทำดีๆ กระบวนการทั้งหมดนี้อาจทำให้สำเร็จได้อย่างเร็วภายในเวลา 6 เดือนเท่านั้นเอง
และสุดท้าย คือ ส.สันติภาพ ซึ่งเป็นเป้าหมายที่สำคัญในการนำพาประเทศให้ลดความขัดแย้งไปได้ นำไปสู่สันติภาพ ให้เศรษฐกิจเดินหน้าได้ เศรษฐกิจก็จะเริ่มฟิ้นตัว
ด้วยรหัส 4 ตัว กปปส. หรือ กฎกติกา ประชาธิปไตย ปฏิรูป และ สันติภาพ นี้เอง น่าจะนำทางให้ประเทศสามารถแก้ไขวิกฤติการเมืองความขัดแย้งกับ กปปส.ได้ แม้ผลลัพธ์ที่ออกมาแต่ละฝ่ายจะไม่ได้ที่ตนเองต้องการทั้งหมด แต่ก็สามารถบรรลุเป้าหมายหลักๆ ของแต่ละฝ่ายไปได้สำหรับพรรคเพื่อไทยคือ มีการเลือกตั้งราบรื่น จัดตั้งรัฐบาลได้เร็ว สำหรับ กปปส. คือ สามารถโค่นระบอบทักษิณได้ และ ปฏิรูปประเทศได้ สำหรับคนไทยก็คือ กลับคืนสู่สันติภาพ และ เศรษฐกิจเดินหน้าได้
ผมขอร้องให้แต่ละฝ่ายได้โปรดพิจารณาแนวคิดเหล่านี้ซึ่งอาจนำไปพัฒนาต่อยอด เพื่อนำพาประเทศชาติไปสู่ทางออกแบบสันติได้โดยเร็ว และนำมาซึ่งความสุขความเจริญของประชาชนคนไทยนะครับ