วันอังคารที่ 18 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

จากม็อบ "กปปส." สู่ รหัสปลดล็อก "กปปส."

กปปส.นั้นย่อมาจาก "คณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข"  นำโดยกำนันสุเทพ และเป็นคู่ขัดแย้งกับรัฐบาลรักษาการอยู่ ณ ตอนนี้นั้น  ช่างเป็นความบังเอิญเหลือเกินที่ "กปปส."นั่นเอง ที่เป็นรหัสจะนำไปสู่การปลดล็อกการเมืองประเทศไทยด้วยเช่นกัน

ก.: กฎกติกา  ในเมื่อ กปปส.เรียกร้องให้รักษาการนายกฯ ยิ่งลักษณ์ "ลาออก" แต่เนื่องจากทำไม่ได้เพราะ ขัดกับรัฐธรรมนูญนั้น   ทางเลี่ยงที่พอจะทำได้ตามกฎกติกาก็คือ "ชินวัตรควรยอมถอยเพื่อชาติ"   คุณยิ่งลักษณ์ควรประกาศ "เว้นวรรคทางการเมือง" เพื่อแลกกับ การที่ลุงกำนันสุเทพจะไม่ขัดขวางเลือกตั้ง  ไม่ปิดล้อมสถานที่ราชการ และ ยุติการชุมนุม   นี่จะเป็นการแลกกันแบบคุ้มๆ  เป็นการลงจากอำนาจ แบบเป็นไปตาม "กฎกติกา"  

ป : ประชาธิปไตย   มองจากมุมของรัฐบาลรักษาการ  การเลือกตั้งจะนำไปสู่ "ประชาธิปไตยตามหลักสากล"  อย่งไรก็ดี  สส.ในประเทศไทยนั้นจะสวมหมวก 2 ใบ คือ ใบหนึ่งคือสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ส่วนหมวกอีกใบหนึ่ง เป็นลูกจ้างของนายทุนพรรค  ดังนั้นนี่อาจเรียกได้ว่าเป็น "ระบอบทักษิณ" นั่นเอง

แต่หากมองจากมุมของ กปปส. ก็พบว่า  การจัดตั้งสภาประชาชน รัฐบาลประชาชน โดยคัดเลือกจากคนกลุ่มเดียวที่มีคุณสุเทพเป็นผู้นำนั้น  แม้จะอ้างว่านี่คือ "ประชาธิปไตยที่สมบูรณ์"  ความจริงแล้วมันคือ "ระบอบสุเทพ" นั่นเอง  

สำหรับคนเสื้อขาว ซึ่งเป็นคนส่วนใหญ่ของประเทศนั้นจะไม่ชอบใจทั้ง "ระบอบทักษิณ" และ "ระบอบสุเทพ" ดังนั้น ผมได้ทุ่มเทสติปัญญาเพื่อนำเสนอสิ่งใหม่ที่เรียกว่า "ประชาธิปไตยไท้เก๊ก" (คำแปล: สุดยอดประชาธิปไตย)  ซึ่งสิ่งนี้ก็คือ การนำเอาอำนาจที่แท้จริงกลับสู่มือประชาชนคนไทยทั้งประเทศ  ส่วน สส.มีอำนาจตามรูปแบบเท่านั้น  โดยอำนาจของ สส.3 เรื่องหลัก คือ 1.เพิ่มหรือเปลี่ยนแปลงกฎหมาย 2.เลือกนายกฯ และ 3.ไม่ไว้วางใจคณะรัฐมนตรี    จะให้อำนาจ 3 เรื่องหลักนี้เป็นไปตาม "ประชามติ" หรือนี่คือประชาธิปไตยแบบทางตรง  ผ่านประชามติ  เพื่อให้อำนาจอธิปไตยอยู่ในมือของประชาชนทั้งประเทศอย่างแท้จริงนั่นเอง  สส.มีหน้าที่ยกมือโหวตตามผลของ "ประชามติ" เท่านั้น  ไม่ใช่ตามใจนายทุนพรรรค  นี่คือ ข่าวดีสำหรับคนเสื้อเหลือง เพราะเป็นการ "โค่นระบอบทักษิณ" และ เป็นข่าวดีสำหรับคนเสื้อแดง เพราะ เป็นการ "สกัดระบอบสุเทพ"  

ป: ปฏิรูป  ต่างฝ่ายต่างก็ต้องการเป็นฝ่ายปฏิรูปประเทศไทย  อย่างไรก็ดี  จะให้มาคุยเจรจาร่วมมือกันเพื่อปฏิรูปนั้นก็คงจะยากเย็น  ผมขอเสนอแนวทางแบบ ต้นน้ำ-กลางน้ำ-ปลายน้ำ  ซึ่งจะทำให้เกิดการบูรณาการของการปฏิรูปได้ในทุกภาคส่วน

ต้นน้ำ  คือ ส่วนที่เป็น อ.ไอเดีย   โดยให้ฝ่าย กปปส.และ พรรคประชาธิปัตย์ที่บอกว่ามีไอเดียในการปฏิรูปมากมาย  จัดการประชุมมาหลายครั้งคงมีเรื่องดีๆ อยู่เต็มหัวแน่นอน  จัดทำแบบสอบถามเพื่อเตรียมทำประชามติทั่วประเทศ  ในการแก้ไขปัญหากฎหมายสำคัญๆ หลายเรื่องได้เลย  

กลางน้ำ คือ อ.อุดมการณ์  ซึ่งจะส่งมอบอุดรการณ์ในการทำเพื่อประชาชนส่วนใหญ่  ด้วยการทำ "ประชามติ"  โดยประชาชนทั้งประเทศเป็นผู้มีอำนาจในการเปลี่ยนแปลงปฏิรูปกฎหมายนั่นเอง

ปลายน้ำ คือ อ.อำนาจ  โดย สส.ใหม่ที่เข้ามาซึ่งส่วนใหญ่น่าจะมาจากพรรคเพื่อไทยนั้น จะมีอำนาจในการยกมือโหวต (ตามผลประชามติ)  เพื่อเปลี่ยนแปลงกฎหมายคอร์รัปชั่น   กฎหมายผู้ว่าฯ   ปฏิรูปตำรวจ  และอื่นๆ  

ดังนั้น ทุกฝ่ายจึงมีส่วนร่วมในการ "ปฏิรูปประเทศไทย"  โดยเป็นลักษณะของ ต้นน้ำ-กลางน้ำ และ ปลายน้ำ  ซึ่งหากทำดีๆ กระบวนการทั้งหมดนี้อาจทำให้สำเร็จได้อย่างเร็วภายในเวลา 6 เดือนเท่านั้นเอง

และสุดท้าย คือ ส.สันติภาพ   ซึ่งเป็นเป้าหมายที่สำคัญในการนำพาประเทศให้ลดความขัดแย้งไปได้ นำไปสู่สันติภาพ  ให้เศรษฐกิจเดินหน้าได้  เศรษฐกิจก็จะเริ่มฟิ้นตัว
ด้วยรหัส 4 ตัว กปปส. หรือ กฎกติกา  ประชาธิปไตย  ปฏิรูป และ สันติภาพ นี้เอง  น่าจะนำทางให้ประเทศสามารถแก้ไขวิกฤติการเมืองความขัดแย้งกับ กปปส.ได้  แม้ผลลัพธ์ที่ออกมาแต่ละฝ่ายจะไม่ได้ที่ตนเองต้องการทั้งหมด  แต่ก็สามารถบรรลุเป้าหมายหลักๆ ของแต่ละฝ่ายไปได้สำหรับพรรคเพื่อไทยคือ   มีการเลือกตั้งราบรื่น จัดตั้งรัฐบาลได้เร็ว    สำหรับ กปปส. คือ สามารถโค่นระบอบทักษิณได้ และ ปฏิรูปประเทศได้   สำหรับคนไทยก็คือ กลับคืนสู่สันติภาพ และ เศรษฐกิจเดินหน้าได้  

ผมขอร้องให้แต่ละฝ่ายได้โปรดพิจารณาแนวคิดเหล่านี้ซึ่งอาจนำไปพัฒนาต่อยอด  เพื่อนำพาประเทศชาติไปสู่ทางออกแบบสันติได้โดยเร็ว   และนำมาซึ่งความสุขความเจริญของประชาชนคนไทยนะครับ  

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น