5 กับดักเศรษฐกิจ..พิษร้ายแรง
 ถ้าพูดถึง “กับดักเศรษฐกิจ” คือ ระบบที่ดูเหมือนจะดี  แต่ที่จริงแล้วกลับไม่ใช่สิ่งที่ดี และ สร้างความเสียหายได้อย่างมากมายตามมา   อาจหยิบยกสถานการณ์เศรษฐกิจโลกปัจจุบันที่กำลังประสบอยู่เป็น 5 เรื่องดังต่อไปนี้
1. กับดักเงินหยวน  คือ การที่ประเทศจีนได้กำหนดค่าเงินหยวนให้ผูกกับเงินดอลลาร์  ส่งผลให้สมดุลการค้าของโลกสูญเสียไป   ประเทศจีนได้ดุลการค้ามากที่สุดในโลก ขณะที่อเมริกาก็ขาดดุลการค้าอย่างมหาศาลที่สุดในโลกเช่นกัน  โดยที่ 2 ประเทศกลับผูกค่าเงินด้วยกันซึ่งเป็นเรื่องที่ผิดปกติมากๆ     ระบบเงินหยวนนี้เคยสร้างปัญหามาแล้ว  โดยได้เคยลดค่าถึง 33% และเป็นตัวจุดชนวนให้การส่งออกของไทยสูญเสียการแข่งขัน  เมื่อรวมกับปัญหาเงินบาทและ BIBF จึงนำไปสู่ “วิกฤติต้มยำกุ้ง” ในที่สุด
วิธีปลดล็อค :  จีนต้องมองให้กว้างออกไป ดำเนินนโยบายไม่ใช่เพื่อประเทศตนเอง  แต่เป็นเพื่อโลก  ในฐานะมหาอำนาจทางเศรษฐกิจ   การยอมให้ค่าเงินหยวนแข็งค่าขึ้นไม่ต่ำกว่า 20% ภายในเวลา 1 ปี  จะช่วยให้สมดุลการค้าของโลกคืนมาได้   สินค้าและสินทรัพย์ของอเมริกาจะมีมูลค่าถูกลงในสายตาคนเอเชียที่มีค่าเงินแข็งขึ้น   ซึ่งจะช่วยประเทศอเมริกาได้เป็นอย่างดี   ขณะที่คนจีนก็จะมีกำลังซื้อมากขึ้น  ความเป็นอยู่ดีขึ้นจากค่าเงินที่แข็งค่า
2. กับดักเงินยูโร คือ การที่กำหนดค่าเงินสกุลเดียว  แต่ผูกประเทศที่มีพื้นฐานทางเศรษฐกิจที่แตกต่างกันอย่างมากให้อยู่ในยูโรโซนเดียวกัน  เยอรมันมีเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง  ได้ดุลการค้าอย่างมาก  ในเวลาเดียวกันพบว่า  ไอร์แลนด์  สเปนและกรีซ  มีเศรษฐกิจที่อ่อนแอ  ขาดดุลการค้าอย่างหนัก   โดยปกติแล้วค่าเงินจะสะท้อนสภาพเศรษฐกิจของแต่ละประเทศ   แต่ด้วยระบบเงินยูโร  มันจึงเกิดขึ้นไม่ได้   จึงสร้างปัญหาอย่างมากต่อประเทศที่อ่อนแอ
วิธีปลดล็อค :  จะต้องมีการปรับเปลี่ยนไปใช้เงิน  2 สกุล  โดยเยอรมันและฝรั่งเศสที่แข็งแกร่งเป็นแกนกลางนั้น  ควรจะเปลี่ยนมาใช้เงินสกุลใหม่ Eura แทน  ส่วนประเทศที่อ่อนแอริมขอบยูโรโซน ก็ใช้เงิน Euro กันต่อไป   ยอมให้ Euro อ่อนค่าลง  เพื่อช่วยเหลือการส่งออก และ การชำระหนี้สิน
ของประเทศริมขอบยูโรโซน   
3. กับดักสภาพคล่อง  เรื่องนี้อยู่ในตำราอยู่แล้ว  คือ การลดอัตราดอกเบี้ยลงมาต่ำมาก  แต่เศรษฐกิจก็ยังไม่ฟื้นตัวอย่างแข็งแรง   สิ่งนี้กำลังเกิดอยู่ในประเทศญี่ปุ่น  อเมริกา และ อังกฤษ  
วิธีปลดล็อค : เคนส์แนะนำให้รัฐบาลทำงบประมาณขาดดุล  เพื่อช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ  
4. กับดักเคนส์  คือ  สภาพที่ประเทศได้สร้างหนี้สาธารณะเพิ่มตลอดจากการใช้นโยบายการคลังขาดดุล   โดยที่เศรษฐกิจไม่ได้มีการฟื้นตัวอย่างยั่งยืน   เศรษฐกิจซบเซาและมีภาวะเงินฝืด   ญี่ปุ่นได้ติดกับดักนี้มา 18 ปีแล้ว  ส่วนประเทศอเมริกา และ ยุโรป  เริ่มติดกับดักนี้มาได้ราว 2 ปี  
วิธีปลดล็อค : ใช้เศรษฐศาสตร์ไท้เก๊ก (Taiji-Econ.) มาเพื่อช่วยฟื้นฟูเศรษฐกิจ  โดยไม่เป็นภาระการคลังเลยแม้แต่น้อย   แต่ใช้หลักการยืมพลังจากแหล่งต่างๆ โดยเฉพาะกองทุนบำนาญแทน  สำหรับประเทศญี่ปุ่นนั้น  อาจใช้ “โครงการสินเชื่อ777”  หรือ “Lucky Seven Loan”  ซึ่งมีแนวคิดคล้ายกัน “สินเชื่อ999”  โดยให้องค์กรที่บริหารเงินบำนาญ  ทำการค้ำประกันสินเชื่อให้กับคนญี่ปุ่นไม่เกิน 7 ส่วนของเงินออมในอัตราดอกเบี้ย 7%   ผ่อนได้ 7 ปี   ส่วนของดอกเบี้ยนั้นบางส่วนจะถูกจัดสรรเข้าองค์กรบริหารเงินบำนาญ และรัฐบาลเป็นค่าธรรมเนียมค้ำประกันเงินกู้ด้วย   ด้วยวิธีง่ายๆ เงินเศษเสี้ยวของกองทุนบำนาญเพียง 1% เมื่อถูกนำมาใช้จ่าย  จะส่งผลให้ยกเศรษฐกิจขนาดใหญ่ได้ โดยรัฐบาลแทบไม่ต้องใส่เงินงบประมาณลงไปตรงๆ เลยแม้แต่น้อย
 ผมคิดว่าหากท่านนายกฯ ของญี่ปุ่นได้อ่านมาถึงบรรทัดนี้  อาจจะตื่นเต้นดีใจเป็นอย่างมาก เพราะหลังจากประชุมทีมเศรษฐกิจ และ เปิดตำราเศรษฐศาสตร์ดูทุกหน้าแล้ว  คงไม่เห็นทางออกที่จะฟื้นเศรษฐกิจญี่ปุ่นได้   เพราะนโยบายทั้ง 3 ด้าน คือ การเงิน การคลัง และ อัตราแลกเปลี่ยนนั้น  ได้ทำมาอย่างเต็มที่แต่ไม่ได้ผลเลย   หากแนวคิดใหม่นี้สามารถฟื้นเศรษฐกิจญี่ปุ่นได้พร้อมๆ กับแก้ไขวิกฤติการคลังไปด้วยได้  จะเป็นผลงานชิ้นโบแดงให้กับรัฐบาลชุดนี้ และ พรรค DPJ อีกด้วย  
 นโยบายการคลังเปรียบไปก็เหมือนกับ “มวยเส้าหลิน”  ที่ใช้พลังแข็งกร้าวเพื่อปะทะคู่ต่อสู้โดยตรง  แต่สังคมญี่ปุ่นนั้นเริ่มเข้าสู่สังคมสูงอายุแล้ว  โดยประชากรมีอายุเฉลี่ยถึง 43 ปีสูงที่สุดในโลก  พลังก็เริ่มลดน้อยถดถอยลงไป   การใช้  “มวยไท้เก๊ก” ซึ่งเป็นหลักการอ่อนสยบแข็ง  ใช้การยืมพลังสะท้อนพลัง ตามเคล็ดวิชา “สี่ตำลึงปาดพันชั่ง”   จะมีโอกาสพิชิตวิกฤติเศรษฐกิจได้ดีกว่า
 ที่จริงแล้วทฤษฎีเศรษฐศาสตร์ไท้เก๊กที่ผมสร้างสรรค์ขึ้นมานี้   มีจุดเริ่มต้นจากคำถามของผมเมื่อ 10 ปีก่อน “ในเมื่อญี่ปุ่นดำเนินนโยบายเศรษฐกิจทั้ง 3 ด้านอย่างเต็มที่แล้ว  เศรษฐกิจก็ยังไม่ฟื้น   ญี่ปุ่นควรทำอย่างไรต่อไป”  คนญี่ปุ่นตอบว่า “ผมก็ไม่รู้เหมือนกัน  คุณช่วยไปคิดต่อหน่อย” เรื่องแบบนี้ไม่เคยมีในตำราเศรษฐศาสตร์  โดยผมต้องใช้เวลาถึง 8 ปีกว่าจะค้นพบทฤษฎีใหม่นี้ได้
5. กับดักการออม :  คือ สภาพที่รัฐบาลสนับสนุนเอาเงินภาษีไปช่วยเพิ่มผลตอบแทนการออมให้กับคนระดับเศรษฐี  ขณะเดียวกัน  บังคับออมกับคนจนซึ่งทำให้พวกเขาติดหนี้สินกันมากทางอ้อม  ซึ่งเป็นระบบที่ทำกันอยู่ในประเทศไทยตอนนี้   ด้วยระบบเช่นนี้  จะทำให้คนรวย ซึ่งมีค่าจ้างแรงงานสูง  ได้รับผลตอบแทนการลงทุนสูงอีกด้วย  ทำให้คนรวยนั้นรวยขึ้น  ขณะที่ทำให้คนจนซึ่งมีค่าแรงต่ำ  ยังถูกบังคับทางอ้อมไปติดหนี้ดอกเบี้ยโหดเพราะ การถูกบังคับออมเงินทำให้เงินขาดมือ  จึงมีผลตอบแทนส่วนทุนติดลบไปมาก   สรุปแล้วคือทำให้คนจนนั้นจนลงไปอีก   เห็นได้ชัดว่าระบบแบบนี้ทำให้เกิดความเหลื่อมล้ำทางสังคมขยายกว้างขึ้น  
วิธีปลดล็อค : ลดวงเงินการหักลดหย่อนภาษี RMF,LTF ลงมา  เลิกอุ้มคนรวยได้แล้ว  ขณะเดียวกันต้องให้มีการยืดหยุ่นเงินออมของประกันสังคม และ กบข.  โดยให้ผู้ประกันตนและสมาชิก  สามารถเข้าถึงเงินออมของตนเองได้  ตามแนวคิดของ  “สินเชื่อ999”   รวมถึงหยุดแนวคิดจัดตั้ง กองทุนการออมแห่งชาติไปเสีย  
 หากผู้นำประเทศต่างๆ เห็นถึงกับดักเหล่านี้  และเดินหน้าปลดล็อคได้เร็ว  โลกก็อาจรอดพ้นจากวิกฤติรอบ 2 ไปได้  แต่ผมคิดว่ามีโอกาสถึง 80% ที่โลกกำลังเดินหน้าสู่วิกฤติรอบ 2 เสียก่อนแล้วผู้นำของประเทศต่างๆ จึงจะตาสว่าง   เห็นถึงข้อเสียของกับดักเศรษฐกิจในปัจจุบันแล้วตัดสินใจเดินหน้าปลดล็อคกับดักเหล่านั้น  จึงจะช่วยฟื้นเศรษฐกิจโลกได้ในที่สุด
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น