วันเสาร์ที่ 31 มกราคม พ.ศ. 2558

ยูโรโซนผจญเพลิงศึกผาแดง

แม้ว่ากรีซ ยังคงอยูในยูโรโซน แม้จะมีปัญหาทางเศรษฐกิจรุมเร้าอย่างหนักหน่วงก็ตามเปรียบเหมือนเพลิงที่กำลังลุกไหม้  ผู้นำในยูโรโซน กังวลว่า กรีซอาจจะออกจากยูโรโซน  แต่ผมอยากจะบอกว่า  สิ่งที่ควรกังวลกว่านั้นก็คือ การที่กรีซไม่ออกจากยูโรโซนเสียมากกว่า   กรีซนั้นได้แปลกแยกออกจากสมาชิกในกลุ่มนี้นานแล้ว โดยอาจยกได้ 3 เรื่อง

1. ECB ดำเนินมาตรการ QE โดยเข้าซื้อพันธบัตรของประเทศในยูโรโซน 6 หมื่นล้านยูโรทุกเดือน  ยกเว้น "กรีซ"

2. ประเทศในยูโรโซนปรับปรุงการคลังดีขึ้นมาระดับหนึ่ง  การขาดดุลลดลงมาได้บ้าง  ยกเว้น "กรีซ" ที่ยังการขาดดุลการคลังถึง  12.2%  ของ GDP ในปี 2013

3. ประเทศสมาชิกยูโรโซน  ล้วนมีบอนด์ยีลระยะยาว (10ปี)  ลดลงระดับหนึ่งเมื่อมีข่าวก่อนหน้านี้ว่า ECB จะใช้มาตรการ QE  ยกเว้นเฉพาะ "กรีซ" ที่บอนด์ยีลด์กลับวิ่งขึ้นไป  จนตอนนี้สูงถึง 11.4% ไปแล้ว

ดังนั้น สรุปได้ว่า  ตลาดเงินตลาดทุนนั้นได้ประเมินมานานแล้วว่า กรีซ ไม่ได้อยู่ในยูโรโซนแล้ว  จะไม่สามารถชำระคืนเงินต้นเป็น "ยูโร" ได้เต็มจำนวนเป็นแน่

เรื่องนี้ขอให้นึกถึง สมรภูมิผาแดงในสมัยสามก๊ก โดยกองเรืองยูโรนั้นมีอยู่ 19 ลำ โดยมีอยู่ลำหนึ่งคือ "เรื่อกรีซ" ที่ไฟกำลังลุกโชน มีหนทางเลือกอยู่ 3 ทาง

1. พยายามดับไฟให้ได้  : ซึ่งได้พยายามทำมาแล้วถึง 5 ปี  กลับพบว่า กรีซขาดความสามารถในการแข่งขันอยู่ดีภายใต้ระบบเงินยูโร  การว่างงานในกรีซยังสูงถึง 25.8%  นับว่าสาหัสมาก  และ หนี้สินภาครัฐต่อ GDP ก็สูงสุดในยูโรโซน  โดยสูงถึง 175%   เมื่อทางเลือกที่ 1 ไม่สำเร็จก็เหลือ 2 และ 3

2. ปล่อยให้ไฟลุกโชนต่อไป : เรื่องนี้จะเป็นปัญหาแน่ เพราะ เรือลำที่อยู่ใกล้ๆ กับ กรีซ อย่างกลุ่มประเทศ PIIGS  อาจติดไฟไปด้วยก็เป็นได้  หากบอนด์ยีลด์ของกรีซ วิ่งจาก 11% ไป 20%  มันจะไม่กระทบต่อบอนด์ยีลด์ของประเทศ PIIGS เลยหรือ??    โดยเฉพาะประเทศที่เสี่ยงเป็นอันดับถัดมา คือ ไซปรัส และ โปรตุเกส  ที่บอนด์ยีลด์อาจวิ่งไปได้สูงกว่าระดับ 5%  นั่นหมายถึง  แผนการ QE ของ ECB ที่หวังจะกดดอกเบี้ยระยะยาวของยูโรโซนให้ลดลงเพื่อสนับสนุนการเติบโตทางเศรษฐกิจนั้นล้มเหลวตั้งแต่ยังไม่เริ่มต้นเสียด้วยซ้ำ

3. ตัดกรีซออกจากกองเรือ : ผมคิดว่าวิธีนี้น่าจะดีที่สุด  ก็คือ Grexit  เพื่อรักษาส่วนรวมเอาไว้  จำเป็นต้องรีบตัดเนื้อร้ายออกไปโดยเร็ว  โดยต้องตัดโซ่ตรวนคือ "เงินยูโร" ออกจากกรีซ  ในความเป็นจริงแล้วเรื่องนี้  ไม่เพียงเป็นผลดีต่อยูโรโซน  แต่ยังเป็นผลดีต่อกรีซเองด้วยเพราะ กรีซจะสามารถฟื้นตัวได้จากการบูมส่งออกและท่องเที่ยว    ประเด็นสำคัญที่สุดนั้นก็คือ แต่ละประเทศจะต้องใช้ค่าเงินที่เหมาะสมกับระดับความสามารถในการแข่งขันนั่นเอง   จากทฤษฎี "ปริวรรตไท้เก๊ก" ก็จะพบว่า หาก 2 ประเทศมีค่าบอนด์ยีลด์ห่างกันเกินกว่า 3% แล้วละก็ 2 ประเทศนั้นไม่ควรผูกค่าเงินไว้ด้วยกันหรือใช้เงินสกุลเดียวกัน

โจโฉได้พ่ายแพ้ยับเยินสมรภูมิผาแดง ได้รำพึงกว่า "หากกุยแกยังอยู่ด้วยเรา  เราคงมิต้องเสียหายยับเยินเช่นนี้"   ก็ได้แต่หวังว่าในยามนี้  ท่านผู้นำของยูโรโซนจะมียอดกุนซืออย่าง "กุยแก" อยู่ข้างกาย โดยไม่เชื่อกลลวงของ "บังทอง" ที่ได้สร้างอุบายเอาไว้  ให้ผูกเรืออย่างแน่นหนาเป็นปึกแผ่นรักษาระบบยูโรเอาไว้แบบนี้ต่อไป  (แนะนำโดยนักวิชาการจากอเมริกาและเอเชีย รวมถึง ยุโรปด้วย)

หากเป็นเช่นนั้น  กองเรืองยูโรโซนจะได้ไม่ต้องเสียหายยับเยินเหมือนในอดีต  ดั่งโจโฉในยุคสามก๊กที่สูญทัพเรือไปในกองเพลิงแทบจะหมดสิ้น.....

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น